Slide 1 Title Here

This is slide 1 description.

Slide 2 Title Here

This is slide 2 description.

Slide 3 Title Here

This is slide 3 description.

Slide 4 Title Here

This is slide 4 description.

Thursday, July 3, 2014

" หมูสะดุ้ง "


ส่วนประกอบ
1.  เนื้อหมูส่วนสันในหั่นสไลด์บาง                                         300    กรัม
2.  คะน้าคัดส่วนยอดและก้านปอกเปลือกล้างให้สะอาด         200    กรัม
     นำไปแช่ไว้ในตู้เย็นเพื่อให้มีความกรอบ เมื่อนำมารับประทานให้แช่ในน้ำแข็ง
     จะอร่อยยิ่งขึ้น ลดความกลิ่นของคะน้าลงได้ค่ะ


ส่วนของน้ำจิ้ม
1.  พริกขี้หนูสวน เพิ่มระดับความเผ็ดตามชอบ  หรือประมาณ      15  เม็ด
2.  กระเทียมแกะเปลือกออก ถ้าใช้กระเทียมไทยใช้ประมาณ        2  หัว
3.  รากผักชีล้างให้สะอาด  ประมาณ                                           2-3  ราก                 
4.  งาขาวคั่ว ประมาณ                                                                1  ช้อนโต๊ะ
     นำมาบดครึ่งช้อนโต๊ะ อีกครึ่งหนึ่งเก็บไว้สำหรับโรยหน้า
5. น้ำปลา                                                                                   2  ช้อนโต๊ะ                     
6. น้ำตาลทราย                                                                          1  ช้อนโต๊ะ            
7. มะนาว                                                                                    1 ลูก
8. น้ำเปล่า                                                                                  1 ช้อนโต๊ะ
9. ผักชี                                                                                       1 ต้น

วิธีทำน้ำจิ้ม
1.  เริ่มจากนำส่วนผสมของน้ำจิ้ม พริก กระเทียม รากผักชีที่เตรียมไว้มาโขลกให้ละเอียด
2.  จากนั้นเติมน้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำเปล่า และตามด้วยมะนาวลงไป เคล้าให้เข้ากันให้ส่วนผสมเข้ากันชิมรสชาติ เพิ่มรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวานตามใจชอบค่ะ แต่ได้หมูสะดุ้ง รสชาติต้องได้ทั้ง เค็มนิด เปรี้ยวน้ำ และหวานตามมา อร่อยเลิศค่ะ
3.  เติมงาคั่วที่เตรียมไว้ลงในน้ำจิ้ม  คนให้เข้ากัน และสุดท้ายเติมผักชีซอยลงไปเพื่อเพิ่มความหอม (เคล็ดลับในการคั่วอย่าใช้ไฟแรงนะคะ เพราะจะทำให้งาใหม่ได้ ใช้ไฟอ่อนถึงปานกลางก็พอค่ะ)
วิธีลวกหมูสะดุ้ง
1. ต้มน้ำให้เดือด
2. นำหมูที่หั่นเตรียมไว้มาลวกในน้ำเดือดจัด เพื่อลดกลิ่นคาวของเนื้อ เนื้อส่วนสันในมีความนุ่มอยู่แล้ว ดังนั้นจะไม่ใช้ ผงหมักก็ได้ค่ะ ลวกใช้เวลาไม่นานประมาณ 30 วินาที ให้เนื้อมีสีขาวอมชมพูหน่อยก็ใช้ได้แล้วค่ะ
3. นำหมูที่ลวกไว้ใส่ในจาน ราดด้วยน้ำจิ้มที่เตรียมไว้ แต่งหน้าด้วยใบผักชี และก้านคะน้าที่เตรียมไว้ พร้อมทานค่ะ




Wednesday, June 4, 2014

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ครัว "ข้าวแลง แบบ มด มด" ค่ะ ตามชื่อเลย ข้าวแลง มาจากภาษาอีสาน แปลว่า อาหารเย็น หรือข้าวเย็นนั่นเอง เน้นอาหารไทย อีสาน ที่ทำง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อน ใครๆ ก็ทำได้ค่ะ


ประเดิมเมนูแรกของ ข้าวแลง แบบ มด มด ด้วยเมนูอาหารอีสานกัน

"อ่อมไก่ใส่ดอกขจร และน้ำเต้า"

อ่อม มาจากภาษาอีสาน ภาคกลางเรียก แกง สูตรที่บ้านจะทำแบบเข้มข้นคือใส่น้ำขลุกขลิก ทานกับข้าวเหนียวหรือข้าวสวย (ข้าวเจ้า) ร้อนๆ จะอร่อยมากๆ (แซบนัว) มาดูส่วนประกอบและขั้นตอนการทำกันเลย
(สำหรับ 3-4 ท่าน)

ส่วนประกอบ 
  1. เนื้อสันในไก่หั่น หรือส่วนอื่นได้ตามชอบ            300    กรัม
  2. ดอกขจร                                                          200    กรัม
  3. น้ำเต้าลูกเล็กหั่นเป็นท่อน         ประมาณ            200    กรัม      
  4. ใบแมงลัก (ผักอีตู่)  ประมาณ 2-3 ก้าน
  5. น้ำเปล่าประมาณ  2 ถ้วยตวง หรือ 1/2  ลิตร
  6. ใบมะกรูด 1 ใบ (ไม่ใส่ก็ได้ตามชอบเลยค่ะ)
  7. น้ำปลา
ส่วนของพริกแกง
  1. พริกสด 5-7 เม็ด
  2. ตะไคร้หั้นฝอย  1-2  หัว
  3. หอมแดงปลอกเปลือก  5-6 หัว
  4. กระเทียมไทยแกะเปลือกออก 5-6 กลีบ
  5. กะปิ ประมาณ 1/2 ช้อนโต๊ะ
  6. เกลือ 1 หยิบมือ หรือประมาณครึ่งช้อนโต๊ะ
โขลกส่วนผสมทั้งหมดให้ละเอียด โดยโขลกตะไคร้ พริกสดเกลือให้ละเอียดก่อน ตามด้วยหอมแดง กระเทียม (หั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆก่อนลงในครกก่อนนะคะ จะได้ไม่กระเด็นและโขลกง่ายละเอียดเร็ว จากนั้นตามด้วยกะปิเป็นส่วนผสมสุดท้าย

วิธีทำ
  1. นำหม้อตั้งไฟ นำเนื้อไก่ที่หั่นเตรียมไว้แล้วใส่ลงไปในหม้อ ตามด้วยพริกแกงที่เตรียมไว้ 
  2. ผัดเนื้อไก่และพริกแกงพอให้หอม จากนั้นเติมน้ำปลาลงไปประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ (ประมาณนะคะลองชิมดูก่อน)
  3. พอเนื้อไก่สุกดี เติมน้ำเปล่าลงไป รอให้เดือดซักพักประมาณ 2-3 นาที(เนื้อสันในไก่ไม่ต้องต้มนานเนื่องจากเนื้อมีความนุ่มอยู่แล้ว) จากนั้นใส่ฟักน้ำเต้าลงไป ต้มทั้งไว้ประมาณ 3 นาที ความหวานของฟักน้ำเต้าและหอมแดงจะค่อยๆออกมา ตามด้วยดอกขจรทิ้งให้เดือดไม่ต้องนานเพราะดอกขจรสุกเร็ว และตามด้วยใบแมงลัก คนให้เข้ากันแล้วยกลงจากเตา เป็นอันเสร็จตักเสริฟได้เลยค่ะ
ลองทำดูนะคะ  เมนูนี้ให้ประโยชน์มากมายเล